ตู้คอนโทรลไฟ เป็นเครื่องมือที่มีความหมายเป็นอย่างมาก เพราะใช้เป็นตัวคอนโทรลกระแสไฟฟ้าอีกทั้งระบบ หรือเครื่องจักรต่างต่างๆซึ่งปฏิบัติหน้าที่คุมไฟฟ้านั่นเอง
ตู้คอนโทรลไฟ (https://kerdthong.com/%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%9f/) ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล ไว้ภายในงานต่างๆที่ต้องการได้ ดังเช่น การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ แล้วก็ยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามลักษณะของการนำไปใช้งาน และตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีบทบาทแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบกระแสไฟฟ้าหลัก การทำงานของตู้ MDBคือการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านทานเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงไฟฟ้าเเล้วก็เลยจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker คอยเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยปกติใช้กันในตึกที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในปริมาณมาก
- ตู้เเผงควบคุมไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นอยู่กับขนาดของอาคารลักษณะที่คล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กมากยิ่งกว่า เเละเครื่องใช้ไม้สอยทางไฟฟ้าด้านในก็ลดหลั่นลงมา
- ตู้ MCC (Motor Control Center) หมายถึง ตู้เเบบตั้งกับพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นที่รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะติดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์พวกนี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อเข้ากับบัสกำลังในเเนวนอน
- ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบไฟฟ้ากำลังการปรับแก้ค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเป็นตัวที่ทำให้ค่าใช้สอยต่างๆเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงได้ ระบบกระแสไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีความสูญเสียในระบบมากมาย ด้วยเหตุดังกล่าว เครื่องไม้เครื่องมือที่ประยุกต์ใช้งานควรต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าครองชีพสำหรับการซื้อเครื่องมือต่างๆมากขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวการปรับปรุงแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงมากขึ้นจึงมีความจำเป็นต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆเรื่องจริงในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการกะแสไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละกำลังไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้สำหรับการทำงาน