วิธี 7 ข้อช่วยทำให้คุณเลิกเป็นคน ขี้หนักใจ

[Naprapats]

ถ้าหากคุณเป็นคนๆหนึ่งที่ชอบ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้กังวลใจ กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

กระทั่งทำให้จะต้องคับอกคับใจอยู่เป็นประจำเรามีแนวทางมาแนะนำที่จะสามารถช่วยให้คุณลดความไม่สบายใจ คิดมาก หรือ ฟุ้งซ่านลงได้

1. พินิจความนึกคิดของตน

ส่วนสำคัญที่สุดของกระบวนการทำเป็น การปลดปล่อยให้ความคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกให้มีสมาธีแบบเจริญก้าวหน้าสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับความหลังได้ โดยให้คุณลองสังเกตการณ์ความคิดของตนเอง


มองว่าตัวเองกำลังตื่นตระหนกอยู่กับเรื่องอะไร รวมทั้ง จะไขปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วดูความนึกคิดของตนเองดู คุณจะทราบเลยว่าความคิดมันไม่มีขอบเขตจริงๆ

และก็ตอนที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่จะแย่ลงแค่นั้น แต่ว่าจิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

แล้วก็ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีช่องว่างในการฟังสิ่งที่ประณีตเพิ่มขึ้น

2. เขียนความนึกคิดของตัวเอง

อีกแนวทางนึง ที่สามารถจะช่วยหยุดความคิดเพ้อเจ้อของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิธีคิดแตกต่าง

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้วิธีเขียนระบายความคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


เพราะ การเขียนทำให้เราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แต่ในหัว


เว้นเสียแต่มันจะไปสุมกันจนกระทั่งเป็นภูเขามันยังทำให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. ระบุช่วงสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้สมอง" ช่วยห้ามไม่ให้ท่านหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากจนเกินไป

เช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆข้างหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลานอนหลับ

มีข้อเสนอว่าให้แบ่งเวลาไว้ราว 20 นาทีต่อวัน สำหรับในการสะท้อนความคิดของตนเอง

ภายในยี่สิบนาทีนี้ ปลดปล่อยให้ตนเองไม่สบายใจ ตรึกตรองครุ่นคิด ฟุ้งซ่านได้เต็มกำลังตามอยาก แล้วเมื่อหมดเวลา

ก็ให้แปรไปทำสิ่งอื่นที่มีประโยชน์กว่า ถ้าหากคุณเริ่มคิดมากนอกขณะที่กำหนดไว้เมื่อใด

ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในช่วงเวลาที่กำหนดดีกว่า

4. เบี่ยงเบนความนึกคิดของตัวเอง

ฟังมองง่ายๆแต่แท้จริงการเขียนจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมนี่มันย ากนะ

ลองออกกำลังกายหรือเล่นเกมมองเมื่อรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์และก็ร่างกาย

ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญคนไม่ใช่น้อยก็เห็นด้วยกับวิธีนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความพึงพอใจของคุณ


ซึ่งควรเป็นกิจก ร ร มที่ใช้อีกทั้งร่างกาย ความคิด แล้วก็ การร่วมเล่นกับคนอื่นๆ เป็นต้นว่า เทนนิส หรือการเดินเล่นกับเพื่อนพ้องสักคน

5. จุดโฟกัสที่สิ่งที่ทำเป็นในปัจจุบัน

อีกหนึ่งวิธีแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือกระทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณต้องทำ สิ่งที่ยังมิได้ทำ หรือ

แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย แต่ว่าให้พุ่งความสนใจไปในที่สิ่งที่สามารถทำได้ในปัจจุบันก็พอ

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหนก็ตาม รวมทั้งลงมือกระทำมันซะ แบบนี้ครั้งใดก็ตามพวกเรากังวล

ถึงปัญหาในเรื่องใดๆก็ตามพวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นตัวเป็นตนเยอะขึ้นเรื่อยๆ

6. เคารพข้อคิดเห็นของตัวเอง

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนกระทั่งไม่ยอมตัดสินใจส่วนหนึ่งส่วนใดอาจเกิดจากคุณไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูก

ต้องทำความเข้าใจที่จะเคารพความคิดเห็นของตนเองยิ่งคิดมากมากแค่ไหน คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตนเองมากเท่านั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจที่บกพร่องได้

คือเรื่องธรรดาที่จะไม่สบายใจว่าคุณเลือกงานไม่ถูก สมรสกับคนที่ไม่ใช่สำหรับตนเอง หรือแม้แต่ขับขี่รถกลับบ้านผิดทาง

แม้กระนั้นความบกพร่องก็มิได้ทำให้เกิดหายนะเสมอไป แถมยังเป็นช่องทางให้ได้ศึกษาแล้วก็เติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจกับความบกพร่องเลย และ ให้รู้เรื่องไว้ว่าความคิดเห็นหรือวิชาความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบและก็เป็นอิสระจากข้างในอย่ างโดยความเป็นจริง
คิดมาก 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/
คำค้นหา : วิตกกังวล